“การเปลี่ยนหลอดไฟในบ้าน” ปรับบรรยากาศให้น่าอยู่
การเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหนึ่งในวิธีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศและสร้างอารมณ์การอยู่อาศัยให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟส่วนใหญ่ที่หลายๆ คนมักเลือกปฏิบัตินั่นคือการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ซึ่งการเลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED มีคุณสมบัติโดดเด่นในการให้แสงสว่างที่เพียงพอต่อความต้องการ และที่สำคัญที่สุดคือการเลือกใช้ไฟ LED ในบ้านรูปแบบนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 3 เท่าอีกด้วย
ก่อนการเปลี่ยนหลอดไฟในบ้าน เราอยากให้คุณทำความรู้จักกับ “หลอดไฟ LED” หรือ Light Emitting Diode คือหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีการทำงานโดยใช้ไดโอดชนิดเปล่งแสงที่มีลักษณะเป็นสารกึ่งตัวนำให้การให้กำเนิดแสงสว่าง ซึ่งแตกต่างจากหลอดไฟทั่วไปที่ใช้ก๊าซบรรจุอยู่ในตัวหลอดนั่นเอง ซึ่งการเลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED เป็นเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดไฟหลายคนมักจะแนะนำให้ลูกบ้านต่างๆ เลือกใช้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนหลอดไฟที่ช่วยให้ประหยัดไฟได้เป็นอย่างดี มีค่าแสงสว่างเพียงพอ และมีสีสันหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานที่แท้จริง จึงทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟ LED ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
การเปลี่ยนหลอดไฟสู่หลอด LED ดีกว่าอย่างไร?
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านให้กลายเป็นหลอดไฟ LED เป็นวิธีการเปลี่ยนหลอดไฟที่หลายๆ บ้านเลือกใช้เนื่องจากตอบโจทย์การใช้ในชีวิตประจำวัน ยังมีอีกหลากหลายเหตุที่ทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟ LED เป็นการเปลี่ยนหลอดไฟอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้
- โดดเด่นเรื่องความประหยัดพลังงาน
การเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านสู่หลอด LED สามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 3 เท่าจากหลอดไฟปกติ หากมีการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ภายในบ้านจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าที่อาจมีแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาอยู่ตลอดเวลาได้เป็นอย่างดี หากเลือกใช้ไฟ LED ในบ้านขนาด 16 วัตต์ จะถูกคิดเป็นเงินเพียง 6.4 สตางค์/ชั่วโมงเท่านั้น
- อายุเฉลี่ยของหลอดนาน ทนทาน ใช้งานกันยาวๆ
การเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านสู่หลอด LED มีความทนทานมากกว่าหลอดไฟทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วการเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ 15,000 ชม.ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่องกว่าหลอดไฟทั่วไป จึงทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟสู่หลอด LED เพียงครั้งเดียวคุ้มค่าอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
- ราคาหลอดไฟถูก สวนทางกับความคุ้มค่า
การเปลี่ยนหลอดไฟให้กลายเป็นหลอด LED นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้เป็นอย่างดีแล้ว การเปลี่ยนหลอดไฟประเภทนี้ยังมีต้นทุนของหลอดไฟที่มีราคาถูกกว่าหลอดไฟทั่วไปในท้องตลาด ทำให้มีความคุ้มค่าทั้งในด้านการพลังงานและต้นทุนที่เลือกใช้นั่นเอง
- หลอดไฟอุณหภูมิต่ำ คายความร้อนน้อย
การเปลี่ยนหลอดไฟ LED เป็นจุดเด่นที่เป็นหลอดไฟที่มีอุณหภูมิการใช้งานต่ำ ไม่เกิดความร้อนง่าย และยังเป็นหลอดไฟที่คายความร้อนออกมาในปริมาณที่น้อย ทำให้การใช้งานในบริเวณรอบๆ มีอุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป สามารถใช้งานหลอดไฟได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟรูปแบบนี้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันที่แท้จริง
- วัสดุแข็งแรง หมดปัญหาไส้หลอดไฟขาด
หลอดไฟ LED เป็นหลอดไฟที่ใช้ไดโอดชนิดเปล่งแสงให้กำเนิดแสง จึงทำให้ลดแรงดันภายในหลอดได้เป็นอย่างดี หมดปัญหาเรื่องไส้หลอดไฟขาดในระหว่างการใช้งาน นอกจากนี้หลอด LED ยังผลิตจากวัสดุที่ทนทาน แข็งแรง ไม่ใช้กระจกในการผลิต ฉะนั้นเวลาใช้งานจริงในระยะหนึ่งจะไม่ทำหลอดระเบิดหรือเสียหายจากความร้อนนั่นเอง การเปลี่ยนหลอดไฟสู่หลอด LED จึงช่วยให้การใช้งานจริงไม่มีสะดุดอีกด้วย
- ปลอดภัยจากสารปรอท เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนหลอดไฟ LED นอกจากจะช่วยให้ประหยัดพลังงานแล้ว การเปลี่ยนหลอดไฟประเภทนี้ยังปลอดภัยจากสารอันตรายอย่าง “สารปรอท” ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งกับผู้ใช้งานภายในบ้าน สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมต่างๆ อีกด้วย คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าหากเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED คุณจะได้รับความปลอดภัยในการใช้งานแน่นอน
เทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านให้คุ้มค่าที่สุด
การเปลี่ยนหลอดไฟ LED เป็นหนึ่งในวิธีการเปลี่ยนหลอดไฟที่หลายๆ บ้านเลือกใช้ เนื่องจากหลอดไฟ LED ในบ้านสามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี และช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังมีเทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดอยู่อีกมากมาย วันนี้ YLN Electric ในฐานะของผู้นำด้านหลอดไฟที่มากประสบการณ์จะขอมาแนะนำเทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟที่รับประกันว่าหากคุณเลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED แล้วจะทำให้การใช้งานคุ้มค่าที่สุดอย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!
การเปลี่ยนหลอดไฟโดยคำนึงถึงพื้นที่การใช้งาน
เทคนิคข้อแรกที่ YLN Electric ตัวแทนจำหน่ายหลอดไฟอยากแนะนำนั่นก็คือการเปลี่ยนหลอดไฟโดยคำนึงถึงพื้นที่การใช้งานเป็นหลัก เนื่องจากในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้านต้องการความสว่างที่แตกต่างกัน ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟเทคนิคสามารถตีความได้อย่างง่ายว่า “ต้องการให้ห้องมีแสงสว่างมากแค่ไหน ต้องการเปลี่ยนหลอดไฟที่มีวัตต์สูงมากเท่านั้น” นั่นเอง ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟ LED โดยคำนึงถึงการใช้งานสามารถอธิบายได้ง่ายๆ ดังนี้
- ห้องนอน
ห้องนอนคือห้องที่ต้องการการพักผ่อนอย่างจริงจัง ไม่ต้องการแสงสว่างจนมากเกินไป การเปลี่ยนหลอดไฟสำหรับห้องนี้ในขนาด 15-20 ตารางเมตร จึงควรใช้หลอดไฟ 4-5 วัตต์ อยู่ที่ 4 หลอดก็เพียงพอ หรือหากเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED 7-9.5 วัตต์ ก็ควรใช้เพียง 2 หลอดเท่านั้น
- ห้องนั่งเล่น
สำหรับห้องนั่งเล่นนี้เป็นห้องที่ในแต่ละวันใช้ทำงานกิจกรรมต่างๆ หลากหลายมากมาย จึงทำให้ห้องนั่งเล่นต้องการแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อใช้ทำกิจกรรมในแต่ละวัน ซึ่งห้องนั่งเล่นที่มีขนาด 20 ตารางเมตรนี้ การเปลี่ยนหลอดไฟ LED ที่เหมาะสมจึงอยู่ที่หลอดไฟขนาด 4-5 วัตต์ จำนวน 10 หลอด หรือการเปลี่ยนหลอดไฟขนาด 9-9.5 วัตต์ จำนวน 4 หลอดก็เรียกว่าเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
- ห้องทำงาน
อีกหนึ่งห้องที่ต้องคำนึงถึงความสว่างของการใช้งานนั่นก็คือห้องทำงานนั่นเอง ซึ่งสำหรับห้องทำงานนี้การเปลี่ยนหลอดไฟที่เหมาะสมนั่นก็คือการเลือกใช้หลอด LED ขนาด 4-5 วัตต์ จำนวน 14 หลอด หรือขนาด 7-7.5 วัตต์ จำนวน 8 หลอด หรือหากต้องการเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ขนาดใหญ่ 9-9.5 วัตต์ สามารถเลือกใช้หลอดไฟจำนวน 6 หลอดก็ได้เช่นกัน
การเปลี่ยนหลอดไฟโดยคำนึงถึงโทนสีและบรรยากาศ
เทคนิคข้อต่อมาที่เราอยากแนะนำนั่นก็คือการเลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED โดยคำนึงการใช้งาน โทนสี และบรรยากาศภาพรวมของห้องนั้นๆ เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟที่จะต้องนึกถึงโทนสีและอุณหภูมิของห้องหรือพื้นที่ต่างๆ ในบริเวณนั้นว่าต้องการให้ออกมาในรูปแบบใด ด้วยการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ในโทนสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- โทนสี Day Light
โทนสี Day Light มีลักษณะเป็นหลอดไฟ LED ในบ้านที่มีสีขาวอมฟ้า มีอุณหภูมิของหลอดไฟอยู่ที่ประมาณ 6,500 Kelvin ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานห้องทำงานเป็นหลัก ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟให้กลายเป็นโทนสี Day Light จะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องมีความสดชื่น ตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมที่ต้องการความแอคทีฟตลอดเวลา
- โทนสี Cool White
โทนสี Cool White มีลักษณะเป็นหลอดไฟ LED ในบ้านที่มีสีขาวสว่าง ช่วยให้วัตถุต่างๆ โดดเด่นและคมชัดขึ้น มีอุณหภูมิของหลอดไฟอยู่ที่ 4,000 Kelvin การเปลี่ยนหลอดไฟโทนสี Cool White นี้มักจะนิยมใช้กับป้ายโฆษณา ร้านค้าและโชว์รูมสินค้าที่ต้องการเน้นสินค้าให้โดดเด่นสะดุดตา แต่สำหรับการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ในบ้าน หลอดไฟโทนสีจะเหมาะสำหรับห้องครัวและบริเวณชานเรือน
- โทนสี Warm Light
โทนสี Warm Light เป็นหลอดไฟ LED ในบ้านที่มีโทนสีอบอุ่นหรือสีส้มเป็นหลัก ช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย สบายๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อน การเปลี่ยนหลอดไฟโทนสี Warm Light นี้จึงนิยมนำมาใช้สร้างบรรยากาศสำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่นเป็นหลัก เพื่อให้ภายในบ้านมีความน่าอยู่และอบอุ่นหัวใจมากยิ่งขึ้น โดยหลอดไฟโทนสีนี้มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 3,000 Kelvin นั่นเอง
การเปลี่ยนหลอดไฟโดยคำนึงดีไซน์การออกแบบเป็นหลัก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนหลอดไฟนอกจากเรื่องของการใช้งานและความคุ้มค่าแล้ว หลายๆ คนยังเลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED เนื่องจากดีไซน์ความสวยงามอีกด้วย ซึ่งภายใต้ความสวยงามนี้กลับแฝงประโยชน์เอาไว้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากรูปทรงของหลอดไฟ LED ในบ้านจะช่วยกระจายแสงได้แตกต่างกัน ฉะนั้นหากในพื้นที่ต้องการแสงสว่างทั่วถึงทุกบริเวณ YLN Electric ตัวแทนจำหน่ายหลอดไฟขอแนะนำให้เลือกการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ในรูปแบบทรงกลมหรือมีลักษณะมน เนื่องจากจะช่วยให้กระจายแสงได้อย่างทั่วถึง และนอกเหนือจากนี้ควรเลือกการเปลี่ยนหลอดไฟที่มีขนาดรูปทรงพอดี จะทำให้หลอดไฟออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การเปลี่ยนหลอดไฟโดยคำนึงฟังก์ชันการใช้งาน
อีกหนึ่งเทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มักแนะนำให้เลือกใช้ นั่นก็คือการเปลี่ยนไฟหลอดไฟที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ เนื่องจากในปัจจุบันนี้หลอดไฟ LED สามารถปรับความสว่างของหลอดไฟได้ผ่านการแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน หรือเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED บางรุ่นสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง เพื่อเปิด/ปิดไฟ รวมไปถึงการปรับสีสันต่างๆ ของหลอดไฟได้ภายในหลอดเดียวอีกด้วย ฉะนั้นการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ภายในบ้านโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลักก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการเปลี่ยนหลอดไฟที่ควรปรับใช้นั่นเอง
ควรเลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านอย่างไรดี?
จากข้อมูลที่ YLN Electric ได้แนะนำไปข้างต้นจะพบว่าการเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านมีคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการประหยัดพลังงาน ความปลอดภัยในการใช้งาน หรือจะเป็นดีไซน์และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ก็ดี ล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นที่ทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟ LED ภายในบ้านเป็นเรื่องที่น่าปรับเปลี่ยนมมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าอีกหนึ่งคำถามสำคัญที่ว่าแล้วควรเลือกซื้อหลอดไฟภายในบ้านแบบไหนดี เพื่อให้การเปลี่ยนหลอดไฟในครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด และสามารถใช้งานกันได้อย่างต่อเนื่อง YLN Electric มีคำตอบมาฝากกัน
- เลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากขั้วหลอดไฟ
เทคนิคแรกในการเลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านที่เราอยากแนะนำนั่นก็คือ การเลือกหลอดไฟ LED หลอดใหม่ให้ตรงกับขั้วหลอดไฟเดิมของที่บ้าน โดยที่ปกติแล้วขั้วหลอดไฟนั้นมีด้วยกัน 2 รูปแบบได้แก่ “ขั้วหลอดแบบเกลียว” ที่จำเป็นต้องใช้ขั้วหลอดแบบ E14 ที่เป็นขั้วหลอดขนาดเล็ก หรืออาจจะเป็นขั้วหลอด E27 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และ “ขั้วหลอดแบบ LED Tube” ที่ต้องใช้กับขั้วหลอด G13 หรือขั้วหลอด G5 ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟในแต่ละครั้งจะต้องเช็กให้ดีกว่า ที่บ้านของเรานั้นใช้ขั้วหลอดแบบไหนอยู่ เพื่อให้การซื้อหลอดไฟตรงกับขั้วที่มีและตอบโจทย์การใช้งานอย่างสูงสุดนั่นเอง
- เลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากการใช้งานเป็นหลัก
การเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านจากการใช้งานเป็นหลักฉันใด การเลือกซื้อหลอดไฟก็ฉันนั้น เราควรเลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากจำนวนหลอดที่ใช้งานจริง ปริมาณแสงสว่างที่เพียงพอต่อพื้นที่การใช้งานจริง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดนั่นเอง
- เลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากคุณภาพของหลอดไฟ
การเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านจำเป็นต้องเลือกหลอดไฟที่มีคุณภาพสูง มีความทนทานต่อการใช้งาน และที่สำคัญควรเลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากร้านจำหน่ายหลอดไฟที่เป็นที่รู้จักในท้องตลาด มีความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ ได้มาตรฐานมอก. รับรองการใช้งาน เพื่อให้การเปลี่ยนหลอดไฟ LED ภายในบ้านครั้งนี้สามารถใช้งานได้ยาวนาน และเกิดความปลอดภัยสูงสุด
- เลือกซื้อหลอดไฟ LED ในบ้านจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ
นอกจากการเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านจะต้องนึกถึงคุณภาพของหลอดไฟเป็นหลักแล้ว เราควรเลือกซื้อหลอดหลอดไฟ LED ในบ้านจากร้านขายหลอดไฟ LEDที่มีความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ หรือจากผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดไฟโดยเฉพาะ เพื่อคำแนะนำในการเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED และการใช้งานหลอดไฟที่ถูกต้อง นอกจากนี้การเลือกซื้อหลอดไฟจากแหล่งที่เชื่อถือได้ยังเป็นการการันตีคุณภาพของหลอดไฟได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านให้มีความคุ้มค่า ประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์ด้านดีไซน์และฟังก์ชันเป็นอย่างดี เราขอแนะนำให้เลือกเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED กับ YLN Electric ตัวแทนจำหน่ายหลอดไฟ ที่มากประสบการณ์ด้านหลอดไฟมากกว่า 50 ปี ผู้เชี่ยวชาญที่จะจะช่วยให้การเปลี่ยนหลอดไฟ LED ครั้งนี้ของคุณคุ้มค่ากว่าครั้งไหนๆ