หลายคนอาจสงสัยว่าหลอดไฟ UV มีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยมักเข้าใจผิดไปว่าเป็นหลอดไฟยูวีก็เป็นเพียงหลอดไฟที่ใช้รังสี UV ในการทำงานเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่ารังสีชนิดนี้นั้นมีหลากหลายประเภท การใช้งานและประสิทธิภาพก็แตกต่างกัน ทำให้มีการผลิตและสร้างหลอดไฟ UV ขึ้นมาตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยผู้ใช้ต้องเลือกให้เหมาะสมและตอบโจทย์กับความต้องการของตนเอง
ประเภทของหลอดไฟ UV กับรังสี
หลอดไฟยูวีเป็นการนำรังสี UV มาผสมผสานเข้ากับการทำงานของหลอดไฟ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยการช่วยเหลือผู้คนในยุคปัจจุบันให้แก้ไขปัญหาบางอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ซึ่งการนำรังสีมาใช้นั้น โดยส่วนมากจะต้องมีความระมัดระวังสูง เพราะรังสีบางชนิดเป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์และมีผลข้างเคียงที่ตามมา
เนื่องจากรังสี UV เป็นรังสีที่มีคุณสมบัติการเผาไหม้สูง ทำให้มีการประยุกต์เพื่อนำมาใช้ในการฆ่าและทำลายเชื้อโรคต่างๆ เพราะหากเป็นรังสียูวีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะถูกเจือจางในขณะที่ผ่านชั้นบรรยากาศ เทคโนโลยีหลอดไฟยูวีจึงเกิดขึ้นเพื่อเลียนแบบธรรมชาติให้สามารถเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และมีอันตรายน้อยที่สุด
โดยประเภทของรังสี UV จะแบ่งตามคลื่นความยาวของแสง เนื่องจากมีลักษณะและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน นั่นทำให้มีการผลิตหลอดไฟยูวีขึ้น 3 ชนิด คือ
- หลอดไฟ UVA
- หลอดไฟ UVB
- หลอดไฟ UVC
ความแตกต่างกับการใช้งานที่โดดเด่น
หลอดไฟยูวีทั้ง 3 ชนิด มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันทั้งสิ้น เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้มีการคำนวณถึงระยะของช่วงคลื่นว่าปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะกับการใช้ประโยชน์ในด้านนั้นๆ รวมถึงจะเป็นอันตรายอย่างไรหากใช้ในระยะเวลาที่มากเกินไป ทำให้การใช้หลอดไฟยูวีจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและเลือกใช้ให้ตรงกับคุณสมบัติของชนิดของหลอดไฟนั้นๆ โดยเราสามารถนำหลอดไฟยูวีมาใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีข้อแตกต่างในด้านการใช้งานดังนี้
หลอดไฟ UVA (ช่วงคลื่นระหว่าง 315-400nm)
เป็นหลอดไฟที่มีช่วงคลื่นของรังสีน้อยที่สุด มีความเข้มข้นต่ำที่สุด โดยจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาเด็กที่มีอาการตัวเหลือง ใช้ในการบำบัดด้วยแสงและรักษาโรคทางผิวหนังที่เกิดขึ้นบางชนิด ซึ่งนอกจากทางด้านการแพทย์แล้ว หลอดไฟ UVA ยังนิยมใช้ในการผลิตเครื่องอาบแดดเพื่อทดแทนแสงอาทิตย์ ใช้ประกอบเวทีการแสดงต่างๆ ใช้ทดสอบธนบัตรโดยการส่องไฟ อีกทั้งยังถูกใช้ในการดักจับแมลงอีกด้วย
หลอดไฟ UVB (ช่วงคลื่นระหว่าง 280-315 nm)
หลอดไฟชนิดนี้นิยมใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคด่างขาว เป็นต้น โดยการรักษาด้วยหลอดไฟ UVB จะมีประสิทธิภาพและมีโอกาสที่จะกลับไปเป็นโรคนี้อีกครั้งในเปอร์เซนต์ที่น้อย แต่การใช้งานจำเป็นจะต้องถูกควบคุมปริมาณและระยะเวลาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอาจมีผลข้างเคียงตามมา เช่น เกิดอาการคัน คลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนี้หญิงที่ตั้งครรภ์ยังสามารถใช้หลอดไฟทางการแพทย์นี้ในการทดแทนแสงอาทิตย์ที่ขาดไป เพื่อให้ได้รับวิตามิน D3 ที่เพียงพอนั่นเอง
หลอดไฟ UVC (ช่วงคลื่นระหว่าง 250-280 nm)
ในส่วนของหลอดไฟ UVC จะถูกเรียกว่าหลอดไฟฆ่าเชื้อ เนื่องจากมักถูกนำมาใช้ในการกำจัดเชื้อต่างๆ ในสถานที่ที่ต้องการรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมในสถานที่นั้น โดยหลอดไฟชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาล สถานที่ปลอดเชื้อ อุตสาหกรรมอาหาร – น้ำดื่ม อุตสาหกรรมผลิตยาและเวชภัณฑ์ เรือนปศุสัตว์ รวมไปถึงห้องทดลองต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามการใช้หลอดไฟ UVC จำเป็นจะต้องมีความระมัดระวังเนื่องจากรังสี UVC เป็นรังสีที่มีอันตรายต่อผู้ที่สัมผัส ดังนั้นผู้ใช้จะต้องมีสัญลักษณ์หรือป้ายเตือนถึงการใช้รังสี และระวังไม่ให้สัมผัสโดนผิวหนังหรือดวงตา
จะเห็นได้ว่าหลอดไฟ UV แต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ทั้งความเข้มข้นของแสง ประโยชน์ในการใช้งาน และข้อควรระมัดระวัง ดังนั้นหากต้องการเลือกใช้หลอดไฟให้ตอบโจทย์ความต้องการ จำเป็นจะต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้ใช้งานได้ถูกต้องตามคุณสมบัติและความโดดเด่นของหลอดไฟชนิดนั้นๆ