YLN Electric
หลอดไฟทางการแพทย์
หลอดอินฟาเรดมีประโยชน์มากกว่าให้แสงสว่าง

หลอดโปรเจคชั่น เป็นหลอดฮาโลเจนประเภทหนึ่งที่ถูกนำมาใช้งานทางการแพทย์ เนื่องจากสามารถสร้างแสงสว่างที่คมชัดและสามารถปรับแสงสว่างได้ตามความต้องการของการทำงานทางการแพทย์
ทำให้หลอดโปรเจคชั่นมักถูกนำไปติดตั้งห้องแลปและโรงพยาบาล โดยเฉพาะการติดตั้งในห้องผ่าตัด
จนหลอดโปรเจคชั่นมีอีกชื่อเรียกว่าหลอดไฟผ่าตัด และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่า
เหตุใดหลอดโปรเจคชั่นถึงเหมาะติดตั้งในห้องผ่าตัด ลองมาดูข้อดีของหลอดโปรเจคชั่น
หรือหลอดไฟผ่าตัดกัน

• ให้แสงสว่างแบบพิเศษที่มีความคมชัดเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในห้องผ่าตัดที่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด
• ถูกออกแบบมาให้รับมือกับความร้อนสูงและการใช้งานนาน ทำให้มีความปลอดภัยสูง
• เป็นหลอดไฟที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความทนทานสูง จึงสามารถใช้งาน
  ในห้องผ่าตัดได้อย่างต่อเนื่อง

หลายคนอาจไม่รู้ว่าหลอดไฟ UV จัดอยู่ในหมวดหลอดที่ใช้สำหรับทางการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์
โดยหลอด UV เกิดจากการนำรังสี UV มาผสมผสานเข้ากับการทำงานของหลอดไฟ
ส่งผลให้เทคโนโลยีหลอดไฟยูวีที่เกิดจากการเลียนแบบธรรมชาติมีประโยชน์ต่อมนุษย์ เพราะสามารถฆ่า
และทำลายเชื้อโรคต่างๆ ได้

โดยปัจจุบันมีหลอดไฟยูวีให้เลือกซื้อมาใช้งานอยู่ 3 ชนิด นอกจากมีคลื่นความยาวของแสงไม่เท่ากัน
ยังมีลักษณะและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้

หลอดไฟ UVA

หลอด UVA เป็นหลอดไฟที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 320-400 นาโนเมตร ซึ่งมีความเข้มข้นต่ำที่สุด
จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาเด็กที่มีอาการตัวเหลือง การบำบัดด้วยแสงและรักษาโรคทางผิวหนัง
ที่เกิดขึ้นบางชนิด นอกจากประโยชน์ทางด้านการแพทย์แล้ว ยังนิยมนำหลอดไฟ UVA ไปใช้ในการผลิตเครื่องอาบแดดเพื่อทดแทนแสงอาทิตย์ ใช้ตรวจดูธนบัตรปลอมโดยการส่องไฟ
รวมไปถึงใช้ในการดักจับแมลง

หลอดไฟ UVB

นอกจากหลอดไฟ UVB จะมีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 290-320 นาโนเมตร ยังถูกนำไปใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคด่างขาว เป็นต้น
แต่การรักษาด้วยหลอดไฟ UVB จำเป็นต้องควบคุมปริมาณและระยะเวลาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษาโรคด้วยวิธีนี้

หลอดไฟ UVC

สำหรับหลอดไฟ UVC หรือหลอดไฟฆ่าเชื้อ ซึ่งมีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 220-290 นาโนเมตร
มักถูกนำมาใช้ในการกำจัดเชื้อต่างๆ ในสถานที่ที่ต้องการรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด
เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมในสถานที่นั้น ทำให้หลอดไฟประเภทนี้ถูกนำใช้ในโรงพยาบาล
สถานที่ปลอดเชื้อ อุตสาหกรรมอาหาร – น้ำดื่ม อุตสาหกรรมผลิตยาและเวชภัณฑ์ เรือนปศุสัตว์
รวมไปถึงห้องแลปต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเวลาใช้งานต้องระวังไม่ให้สัมผัสโดนผิวหนังหรือดวงตาด้วย

แน่นอนว่าหลอดเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เช่น ใช้ในการทำการผ่าตัด ทำวิจัยทางการแพทย์ หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ แต่หลอดไฟทางการแพทย์มีความสามารถที่แตกต่างออกไป อย่างใช้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค หรือใช้ในการให้ความร้อนในการทำการผ่าตัดหรือการรักษา เป็นต้น

ตามที่รู้กันว่าวิธีนำความร้อนมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เกิดจากการถ่ายโอนความร้อนจากวัตถุหนึ่งที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไปสู่วัตถุหนึ่งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า ซึ่งการใช้ประโยชน์จากความร้อนโดยรังสีอินฟาเรดก็มีความใกล้เคียงกัน เพราะมีการถ่ายโอนความร้อนเกิดขึ้น 3 รูปแบบ ดังนี้

การนำพาความร้อน (Conduction)

เป็นการถ่ายทอดความร้อนแก่ตัวกลางที่เป็นลมหรือของเหลว จากนั้นตัวกลางจะนำพาความร้อนเคลื่อนที่เกิดจากรังสีอินฟาเรดไปยังพื้นผิวหรือสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเป้าหมาย แม้วิธีนี้จะถูกใช้อย่างแพร่หลายในระบบทำความเย็นหรือความร้อนในอาคาร  แต่มีข้อเสียตรงความร้อนของวัตถุเป้าหมายจะขึ้นช้า ทำให้สูญเสียความร้อนมากกว่าระบบอื่น

การนำความร้อน (Convention)

มีหลักการทำงานคล้ายวิธีนำพาความร้อน แต่ตัวกลางนำความร้อนของวิธีนี้จะใช้วัสดุที่เก็บกักความร้อนได้ ทำให้สามารถนำพาความร้อนที่เกิดจากรังสีอินฟาเรดไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีแรก

การแผ่รังสี (Radiation)

คือการแผ่รังสีอินฟาเรดไปยังเป้าหมายโดยตรง เนื่องจากพลังงานความร้อนประเภทนี้จะอยู่ในรูปแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงไปหาวัตถุ ทำให้การนำพาความร้อนด้วยการแผ่รังสีมีประสิทธิภาพที่สุด

แม้รังสีอินฟาเรดจะมีความยาวคลื่นยาวกว่าแสงที่สามารถมองเห็นได้ แต่ชนิดของรังสีอินฟาเรดที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในปัจจุบันมีข้อแตกต่างตามช่วงความยาวคลื่น โดยมีรายละเอียดดังนี้

รังสีอินฟาเรดช่วงคลื่นสั้น (NIR)

ช่วงคลื่นสั้นของรังสีอินฟาเรดจะมีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 700 - 1,400 นาโนเมตร และแหล่งกำเนิดของรังสีอินฟาเรดชนิดนี้มีทั้งจากธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

• แหล่งกำเนิดธรรมชาติของรังสีอินฟาเรดคือพลังงานที่แผ่ออกมาจากพระอาทิตย์ และเปลวไฟธรรมชาติ อย่างไฟป่า ไฟจากภูเขาไฟ หรือไฟจากฟ้าผ่า เป็นต้น
• แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกนำไปใช้ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เช่น หลอดอินฟาเรด หลอดไฟฆ่าเชื้อโรค หรือหลอดโปรเจคชั่น เป็นต้น

รังสีอินฟาเรดช่วงคลื่นกลาง (MIR)

พบว่ามีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 1,500 - 5,600 นาโนเมตร โดยแหล่งกำเนิดของรังสีชนิดนี้มักเกิดจากการแพร่กระจายความร้อนจากวัตถุที่มีอุณหภูมิสูง รวมถึงการเกิดรังสีตามธรรมชาติที่มีอุณหภูมิต่ำ เช่น ผิวหน้าของมนุษย์ สัตว์เลี้ยง หรือวัตถุสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ซึ่งมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์และสิ่งมีชีวิต เป็นต้น

รังสีอินฟาเรดช่วงคลื่นยาว (FIR)

ขณะที่รังสีอินฟาเรดช่วงคลื่นยาว เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 5,600 นาโนเมตรขึ้นไป ทำให้รังสีประเภทนี้จะให้พลังงานความร้อนไม่มากนัก จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ลดอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง หรือช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย เป็นต้น

ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า YLN Electric จะพาทุกคนไปเจาะลึกข้อมูลหลอดไฟอินฟาเรดและชุดหลอดที่ใช้สำหรับทางการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งในทางการแพทย์มีการรักษาหลายแขนงที่จำเป็นต้องใช้หลอดไฟเครื่องมือแพทย์ชนิดนี้ ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า ถึงประโยชน์ของหลอดไฟทางการแพทย์ในหมวดหมู่นี้มีอะไรบ้าง

การใช้งานในห้องผ่าตัด

เนื่องจากห้องผ่าตัดเป็นพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างที่เหมาะสม ไม่ส่องสว่างจนเกิดอาการตาพร่า หรือแสงน้อยจนแพทย์ทำการผ่าตัดไม่ได้ ดังนั้นการเลือกหลอดไฟหรือโคมไฟผ่าตัดจึงมีความสำคัญมาก สำหรับชุดหลอดไฟทางการแพทย์ที่นิยมใช้ในห้องผ่าตัด อย่าง…

หลอดโปรเจคชั่น

ประเภทหนึ่งของหลอดไฟที่ใช้แก๊สฮาโลเจนเป็นส่วนผสมในการสร้างแสง ทำให้หลอดโปรเจคชั่นมีความสว่างสูง เหมาะสำหรับใช้ในงานที่ต้องการ
แสงสว่างและความชัดเจน อย่างห้องผ่าตัดหรือห้องแลปที่ต้องการแสงที่มีความเพียงพอสำหรับการทำงานและการสังเกตุโดยทั่วไป

หลอดไฟ UVC

เป็นหลอดไฟทางการแพทย์อีกประเภทที่ถูกนำมาใช้งานในห้องผ่าตัดและพื้นที่อื่น ๆ ในโรงพยาบาล เพราะรังสี UVC มีความยาวคลื่นยาวกว่ารังสี X-Ray จึงสามารถส่องทะลุผ่านผิววัตถุรวมถึงดีเอ็นเอของเชื้อโรคที่ติดอยู่บนพื้นผิวหรืออุปกรณ์ภายในห้องผ่าตัด ทั้งยังช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในห้องผ่าตัดอีกด้วย จึงมั่นใจว่าการทำความสะอาดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในห้องผ่าตัดมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สูงที่สุด

ใช้หลอดไฟ UVB รักษาโรคผิวหนัง

หลอดไฟ UVB เป็นหนึ่งในหลอดไฟ UV ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้านการรักษาโรคผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นโรคสะเก็ดเงิน อาการอักเสบชนิดเรื้อรังที่เกิดขึ้นตามบริเวณผิวหนัง โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคด่างขาว เพราะแสงจากหลอด UVB มีประสิทธิภาพในการในการรักษาโรคผิวหนัง ทั้งยังสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มปริมาณวิตามิน D3 ได้อีกด้วย

ใช้กายภาพบำบัด

ปัจจุบันการกายภาพบำบัดได้นำเทคโนโลยีการให้ความร้อนจากหลอดอินฟาเรดมาประยุกต์ใช้ในการรักษา เพราะความร้อนจากหลอดไฟทางการแพทย์ประเภทนี้จะเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาทและกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดเกร็งจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ออกกำลังกายผิดท่า หรือท่านั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม ให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและอาการปวดลดลง เพราะรังสีอินฟาเรดที่แฝงอยู่ในหลอดไฟไปช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดของกล้ามเนื้อ จนทำให้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อลดลงนั่นเอง

เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรดทางการแพทย์

ปัจจุบันมีการนำรังสีอินฟาเรดมาใช้วัดอุณหภูมิร่างกายมนุษย์ผ่านอุปกรณ์ที่ชื่อว่า เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรดทางการแพทย์ โดยหลักการทำงานคือเวลาใช้งานตัวเครื่องจะปล่อยรังสีอินฟาเรดจากระยะไกลไปยังมนุษย์ เพื่อวัดค่าอุณหภูมิร่างกายว่าปกติหรือกำลังเจ็บป่วย ซึ่งข้อดีของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรดประเภทนี้คือเสดงผลการวัดอุณหภูมิผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าปรอทวัดไข้ทั่วไป

การใช้หลอดไฟอินฟาเรดขึ้นรูปพลาสติกทำให้วัสดุมีน้ำหนักเบา ทนทานต่อการกระแทก เพราะพลาสติกที่
หลอดอินฟาเรดสร้างขึ้นมีความยืดหยุ่นสูง นอกจากลดโอกาสแตกหักแล้วยังง่ายต่อการนำพลาสติก
ชิ้นนั้นไปปรับเปลี่ยนรูปทรงตามต้องการ

สำหรับประโยชน์ของหลอดอินฟาเรดในด้านนี้จะพบเห็นได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างตู้อบซึ่งใช้
หลอดอินฟาเรดให้ความร้อนเพื่อทำให้อาหารที่อยู่ภายในตู้อบสุกได้รวดเร็วและทั่วถึง นอกจากนี้การใช้
หลอดอินฟาเรดยังถือเป็นการทำความสะอาดตู้อบไปในตัว เพราะไม่มีสารตะกั่วเกิดขึ้นในกระบวนการ
อบอาหาร

ปัจจุบันหลอดไฟอินฟาเรดถูกนำมาใช้ในกระบวนการอบสีรถยนต์หรืออบแห้งน้ำยาเคลือบเงารถ
เพราะหลอดอินฟาเรดให้ความร้อนภายใต้การควบคุมอุณหภูมิ จึงช่วยให้สีที่เคลือบรถยนต์แห้งสนิท
มีความสม่ำเสมอและสวยงามโดยไม่ต้องกังวลว่าความที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสี

นี่เป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งจากการใช้หลอดอินฟาเรดให้ความร้อนในการอบแห้งเพื่อให้สารหรือวัสดุที่ผ่านกระบวนให้ความร้อนแห้งและตั้งรูปตามที่ต้องการ ซึ่งขั้นตอนอบแห้งกระดาษหรือหมึกพิมพ์
มีความแตกต่างกันดังนี้

วิธีอบแห้งกระดาษ

เป็นกระบวนที่มักใช้เพื่อผลิตกระดาษสำหรับพิมพ์สื่อต่าง ๆ เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือโปสเตอร์
โดยการใช้หลอดอินฟาเรดให้ความร้อนมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงนำกระดาษที่ต้องการอบไปวางในตู้อบที่มีหลอดไฟอินฟาเรด เมื่อเปิดใช้งานน้ำที่อยู่ในกระดาษจะระเหยออกไป เหลือเพียงเนื้อกระดาษแห้งที่จะถูกนำไปผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ตามที่ต้องการ

วิธีอบแห้งหมึกพิมพ์

เป็นกระบวนการอบแห้งด้วยการใช้หลอดอินฟาเรดให้ความร้อนที่มักพบในอุตสาหกรรมการพิมพ์
ซึ่งต้องการให้ความร้อนกระจายได้ทั่วถึงเพื่อให้หมึกพิมพ์แห้งเร็ว และพร้อมนำหมึกพิมพ์ไปใช้พิมพ์งานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

วิธีอบแห้งฐานน้ำหรือฐานน้ำมัน

การอบแห้งด้วยหลอดอินฟาเรดวิธีนี้มักถูกใช้ในการผลิตหรือปรับปรุงวัสดุที่มีฐานน้ำหรือฐานน้ำมัน เช่น พอลิเมอร์ ยางธรรมชาติ หรือพลาสติก เป็นต้น เพื่อให้ความร้อนจากหลอดไฟอินฟาเรดช่วยระเหยน้ำหรือสารต่าง ๆ ที่อยู่ในวัสดุออกไป ซึ่งจะช่วยให้สารหรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้แห้งและมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานนั่นเอง

ต้องยอมรับว่าหลอดไฟอินฟาเรดเป็นหนึ่งชุดหลอดไฟทางการแพทย์ที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรค
เชื้อราในสถานที่และวัตถุต่าง ๆ ได้ เพราะรังสีอินฟาเรดบางชนิดสามารถฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับผิวหนัง
หรือปลายแว่นตาได้ เพราะหลอดอินฟาเรดให้ความร้อนที่ไปยับยั้งการเจริญเติบโตหรือทำลายเนื้อเยื่อ
ของเชื้อโรคดังกล่าว

หลอดอินฟาเรดเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่นิยมใช้ในกลุ่มสัตวแพทย์หรือสถานที่เลี้ยงสัตว์
โดยหลอดอินฟาเรดให้ความร้อนถูกนำไปใช้ให้ความร้อนกับสัตว์ เพื่อปรับอุณหภูมิหรือให้ความอบอุ่น
แก่สัตว์อายุน้อยที่ยังปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ไม่ดีพอ

นอกจากหลอดอินฟาเรดจะสามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อราได้แล้ว ยังมีการใช้หลอดอินฟาเรดให้ความร้อน
ในทางการแพทย์ เพื่อรักษาหรือลดอาการที่เกิดจากโรคบางชนิด เช่น

• เข้ามาช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังจากออฟฟิศซินโดรมหรือการออกกำลังกาย
• ใช้ในการรักษาแผลหรือบาดแผล โดยรังสีจากหลอดไฟอินฟาเรดจะไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง พร้อมเร่งการฟื้นตัวของเซลล์ผิวหนัง
• หลอดไฟอินฟาเรดสามารถช่วยลดอาการปวดและอักเสบในข้อเข่าได้ในบางกรณี
• มีการใช้รังสีอินฟาเรดสามารถช่วยรักษาอาการผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงินหรืออาการคัน เป็นต้น